ลวดสลิง
เกิดจากการนำเส้นลวด (wire) มาตีให้กลายเป็นเกลียว (strand) แล้วนำแต่ละเกลียวมาตีเข้ารวมกันเข้ากับแกนกลาง (core) จนกลายเปนลวดสลิง (steel wire rope) เพื่อนำไปใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆต่อไป ส่วนลวดสลิงชุบกัลวาไนซ์หรือลวดสลิงขาวคือการชุบเส้นลวดก่อนกระบวนการผลิตซึ่งจะทำให้ลวดสลิงมีวามทนทานต่อความชื้นมากขึ้นแต่ความแข็งแรงของลวดสลิงก็จะลดลงประมาณ 10% เมื่อเทียบกับลวดสลิงดำปกติด้วยเช่นกัน
ชนิดของสลิงแบ่งตามแกนสลิง
1.สลิงไส้เหล็ก (Independent wire rope core: IWRC) - จะมีแกนที่เป็นลวดสลิงเพิ่มความแข็งแรง มีความทนทานต่อการกระแทก การบีบอัด และการเสียรูป รวมถึงทนความร้อนได้มากกว่าลวดสลิงไส้เชือก แต่จะความยืดหยุ่นน้อยกว่าลวดสลิงไส้เชือก
2.สลิงไส้เชือก (Fiber core: FC) - แกนกลางอาจจะทำมาจากเส้นใยธรรมชาติหรือวัสดุสังเคระห์ ทำให้ลวดสลิงชนิดนี้มีความแข็งแรงน้อยกว่าลวดสลิงไส้เหล็ก แต่มีความยืดหยุ่นสูงกว่า เหมาะแก่การใช้งานที่ต้องการความอ่อนตัวและความยืดหยุ่นสูง ช่วยรองรับแรงค่าความเค้นที่เกิดจาก shock loads ได้ดีกว่าลวดสลิงไส้เหล็ก นอกจากนี้ยังป้องกันความเสียหายจากการกัดกร่อนเนื่องจากไม่ดูดซับความชื้น และทนต่อสภาพกรดหรือด่างอ่อนๆได้
3.ลวดสลิงสแตนเลส (Stainless Steel Wire Rope) - เหมาะสำหรับงานประดับตกแต่ง แสดงสินค้า งานที่เน้นความสวยงาม เนื่องจากลวดสลิงสแตนเลสมีความเงางาม อีกทั้งมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าลวดสลิงชนิดอื่นๆ เนื่องจากสามารถทนต่อความชื้นได้มากกว่าสลิงทั่วไปทำให้เกิดสนิมซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้สลิงชำรุดได้ โดยถ้าเราแบ่งตามเกรดของสลิงสแตนเลสที่มีขายอยู่ในไทยจะมีอยู่ 2 เกรดคือ
3.1. สลิงสแตนเลส 304 –สามารถปกป้องการเกิดสนิมและทนการกัดกร่อน จากสิ่งต่าง ๆ ได้ดี ในเรื่องราคาก็สมเหตุสมผล ใช้งานได้ทั่วไป จึงเป็นเกรดที่นิยมใช้กันมาก ถือเป็นเกรดมาตรฐานเกรดนึง เลยทีเดียว
ขนาด (7x7) |
ขนาด (7x19) |
ขนาด (6x19) |
0.4 mm (7x7) |
3 mm.(7x19) |
12 mm.(6x19) |
0.6 mm (7x7) |
4 mm.(7x19) |
16 mm.(6x19) |
0.8 mm (7x7) |
5 mm.(7x19) |
19 mm.(6x19) |
1 mm.(7x7) |
6 mm.(7x19) |
|
1.2 mm.(7x7) |
8 mm.(7x19) |
|
1.5 mm.(7x7 ) |
9 mm.(7x19) |
|
2 mm.(7x7) |
10 mm.(7x19) |
|
2.4 mm (7x7) |
12 mm.(7x19) |
|
2.5 mm (7x7) |
16 mm.(7x19) |
|
3 mm.(7x7) |
19 mm.(7x19) |
|
4 mm (7x7) |
|
|
3.2. สลิงสแตนเลส 316 –ทนการกัดกร่อนจากสารเคมี ประเภท กรด น้ำเค็ม ได้ดีกว่าเกรด 304 จึงเป็นที่นิยม นำไปใช้ในอุตสาหกรรมเดินเรือ อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมการแพทย์ เป็นต้น
ขนาด (7x7) |
ขนาด (7x19) |
ขนาด (7x19) |
1 mm.(7x7) |
3 mm.(7x19) |
10 mm.(7x19) |
1.2 mm.(7x7) |
4 mm.(7x19) |
12 mm.(7x19) |
1.5 mm.(7x7 ) |
5 mm.(7x19) |
16 mm.(7x19) |
2 mm.(7x7) |
6 mm.(7x19) |
19 mm.(7x19) |
3 mm.(7x7) |
8 mm.(7x19) |
|
|
9 mm.(7x19) |
|
ทางร้านมีลวดสลิงหลากหลายขนาดและโครงสร้างจำหน่าย ลูกค้าสามารถสอบถามพนักงานขายเพื่อให้ได้สลิงที่ตรงกับการใช้งานของลูกค้าได้ ทางร้านมีขายสลิงทั้งปลีกและส่ง ลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 0859492545 (คุณนัต) , 0851093622, 022918460, 022918461 หรือติดต่อทาง Line ได้ที่ Line ID: nutchao และ kmk945
โครงสร้างของลวดสลิงและวิธีการวัดสลิง
เชือกลวดเหล็กกล้าประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ ลวดเหล็กกล้า (wire), ลวดตีเกลียว (strand) และแกน (core) ตามตัวอย่างรูปด้านล่างนี้
รูปภาพด้านล่างแสดงส่วนประกอบของสลิงและวิธีการวัดขนาดของลวดสลิงที่ถูกต้อง
สลิงที่ทางร้านมีจำหน่ายคือขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 0.80mm – 120.00mm ขึ้นอยู่กับโครงสร้างที่ทางลูกค้าต้องการ ทางเรามีโครงสร้างต่างๆตามรูปด้านล่าง ซึ่งบางไซส์อาจต้องใช้เวลาผลิตและมีจำนวน และหากเราแบ่งตามโครงสร้างของสลิงก็จะสามารถแยกได้หลากหลายตัวอย่างเช่น 6x7 6x19+IWRC 6x19+FC 7x19 ฯลฯ ซึ่งเราได้นำแบบต่างๆคร่าวๆของสลิงมาแสดงให้ลูกค้าได้เห็นตามรูปภาพด้านล่างครับ
เกลียวของสลิง
1. ทิศทางของการตีเกลียว (lay direction for rope) โดยมีทั้งการตีเกลียวทางซ้าย และทางขวา
วิธีการตัดสลิงและการใช้กิ๊บจับสลิง
วิธีการตัดสลิงที่ถูกต้องจะต้องทำการมัดลวดที่ลวดสลิงให้แน่นระหว่างจุดที่เราจะตัดสลิงเพื่อไม่ให้ปลายของลวดสลิงแตกเอเราทำการตัดตามรูปภาพด้านล่าง
วิธีการใช้กิ๊บจับกับลวดสลิงที่ถูกต้อง จะต้องให้ขาของกิ๊บจับชี้ไปด้านสลิงเส้นยาวไม่ใช่ด้านที่เราขดสลิงกลับมาเพื่อทำเป็นห่วงเพื่อให้กิ๊บจับสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ป้องกันกิ๊บจับรูดออกจากตัวสลิง นอกจากนี้ควรใช้อุปกรณ์เช่นแหวนข้างปากตาย หรือบล๊อคขันน้อตที่กิ๊บจับให้แน่นไม่ควรใช้แค่มือขันแล้วนำไปใช้งานเด็ดขาด การทำเช่นนี้อาจทำให้ลวดสลิงรูดออกจากตัวกิ๊บจับได้ ตัวอย่างการรัดสามารถดูได้จากรูปภาพด้านล่างครับ
ลวดสลิงและหลักเกณฑ์การใช้งาน
ความแข็งแรงต่อแรงดึง (Tensile strength) ค่าความแข็งแรงนี้จะถูกคำนวณและเผื่อค่าไว้ในการเลือกใช้ ซึ่งเรียกว่า safety factor ซึ่งค่าความแข็งแรงนี้จะเป็นค่าที่ทนต่อแรงดึงสูงสุดที่จะเกิดขึ้นกับเชือกลวดเมื่อใช้งาน
เทคนิคการดูแลรักษาลวดสลิง ให้ดูดีและใหม่อยู่เสมอ ทำยังไง?
2. การนำลวดสลิงไปดึงหรือลาก
การเข้าหัว (Terminations)
ส่วนปลายของลวดสลิงนั้นจะแยกออกกันทั้นทีและไม่สามารถที่จะใช้ต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ จึงจะต้องมีวิธีการที่จะป้องกันไม่ให้ปลายของลวดสลิงนั้นแยกออกจากนั้น วิธีการที่ใช้กันมากที่สุดนั้นทำโดยม้วนปลาย เป็นห่วง ซึ่งจะมีประสิทธิภาพตั้งแต่ 70% สำหรับห่วงแบบ Flemish eye อย่างเดียว จนถึง 90% สำหรับห่วงแบบ Flemish eye และการ splice จนถึง 100% สำหรับ potted end และ swaging
ลวดสลิงเกลียวขวา (RHOL) เข้าหัวกับห่วงหัวใจและอัดปลอก
ห่วงหัวใจ (Thimbles)
เมื่อลวดสลิงถูกม้วนเป็นห่วงปลายนั้น มีโอกาสที่ลวดสลิงอาจจะถูกบิดแน่นเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อห่วงนั้นต่อกับอปกรณ์ที่กระจาย น้ำหนักกระทำกับพื้นที่เล็กๆ ห่วงหัวใจจะถูกใส่เข้าไปในห่วงเพื่อจะรักษารูปทรงของห่วงและป้องกันสายลวดสลิงเสียหายจากแรงกดภายในห่วง การใช้ห่วงหัวใจนั้นเป็นวิธีการที่ดีที่สุด Best Practice ซึ่งช่วยป้องกันแรงกระทำหน้าสัมผัสกับลวดสลิงโดยตรง